The Terawatt Rush: คลื่นพลังงานแห่ง AI ที่เขย่าตลาดพลังงานโลก

21 พฤษภาคม 2568
2 นาที
โดย ทีมงาน ThaiForex.Org

คลื่นพลังงานแห่ง AI กำลังเปลี่ยนโฉมตลาดพลังงานโลก

คาดว่าภายในปี 2030 ศูนย์ข้อมูล AI จะใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าประเทศญี่ปุ่นทั้งประเทศในปัจจุบัน ทำให้เกิดการแย่งชิงทรัพยากรพลังงานทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความต้องการพลังงานที่พุ่งสูงนี้สร้างแรงกดดันต่อโครงข่ายไฟฟ้า เกิดคอขวดในการเชื่อมต่อที่ล่าช้าเป็นเวลาหลายปี และผลักดันให้ผู้ให้บริการสาธารณูปโภคต้องลงทุนถึง 720 พันล้านดอลลาร์ในโครงข่ายภายในปี 2030

แม้จะเป็นภัยต่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม แต่ก็เป็นแรงผลักดันให้เกิดนวัตกรรมด้านประสิทธิภาพพลังงาน การปรับปรุงโครงข่าย และเทคโนโลยีทำความเย็นอย่างยั่งยืน การปะทะกันระหว่างการเติบโตของ AI และข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานนี้ กำลังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในตลาดพลังงาน นับตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม

AI กระหายพลังงานอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ความต้องการไฟฟ้าจากการประมวลผล AI ที่เพิ่มขึ้นในระดับประวัติศาสตร์กำลังพลิกโฉมตลาดพลังงานโลกในอัตราที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานรัฐยังคาดไม่ถึง

ปัจจุบันศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1.5-2% ของทั่วโลก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวภายในปี 2030 ขณะที่ในสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียวใช้ไฟฟ้าไปแล้ว 4.4% จากศูนย์ข้อมูล และอาจพุ่งขึ้นถึง 6.7-12% ภายในปี 2028

AI เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก โดยเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ AI มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นปีละ 30% เทียบกับเพียง 9% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป คำสั่งหนึ่งครั้งใน ChatGPT ใช้พลังงานราว 2.9 วัตต์-ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าการค้นหาใน Google ถึง 10 เท่า

ฮาร์ดแวร์ AI รุ่นล่าสุดมีการใช้พลังงานสูงมาก เช่น GPU NVIDIA H100 ใช้ไฟถึง 700 วัตต์ต่อชิ้น และเซิร์ฟเวอร์แบบ 8-GPU อาจกินไฟสูงถึง 10.2 กิโลวัตต์ ขณะที่แร็คของศูนย์ข้อมูลอาจต้องรับโหลดถึง 50-250 กิโลวัตต์ในไม่กี่ปีข้างหน้า

ในบางพื้นที่ เช่น Northern Virginia (Data Center Alley) ศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานสูงถึง 30% ของระบบไฟฟ้าท้องถิ่น และในไอร์แลนด์ ศูนย์ข้อมูลใช้ไฟกว่า 20% ของประเทศ และคาดว่าจะถึง 28% ภายในปี 2031

โครงการระดับเมกะ เช่น "Stargate" (OpenAI, SoftBank, Oracle) ลงทุนสูงสุดถึง $500 พันล้านในโครงสร้าง AI ขนาดกิกะวัตต์ ส่วน Meta วางแผนศูนย์ข้อมูลในหลุยเซียน่าที่ต้องใช้ไฟถึง 2 กิกะวัตต์ เท่ากับบ้านเรือน 1.5 ล้านหลัง

โครงข่ายไฟฟ้ารับภาระไม่ไหว

การเติบโตของ AI ปะทะเข้ากับข้อจำกัดของโครงข่ายไฟฟ้า นำไปสู่ปัญหาการเชื่อมต่อที่ล่าช้าและแผนการพัฒนาโครงสร้างที่ตามไม่ทัน

Tony Clark อดีตกรรมาธิการ FERC กล่าวว่า “โอ้ พระเจ้า…โหลดขนาดนั้นมาเร็วขนาดนี้ ไม่มีทางที่เราจะรองรับได้ทันในระยะสั้น”

บริษัทอย่าง Dominion Energy แจ้งว่า ศูนย์ข้อมูลใหม่ใน Eastern Loudoun County จะต้องรอไฟจนถึงปี 2026 ขณะที่ใน West London และดับลิน ไอร์แลนด์ การเชื่อมต่อใหม่อาจต้องรอถึงปี 2030 และ 2028 ตามลำดับ

เวลารอเชื่อมต่อพลังงานกลายเป็นอุปสรรคทางธุรกิจ โดยอาจต้องรอถึง 2-7 ปี ในขณะที่สร้างศูนย์ข้อมูลใช้เวลาเพียง 1-2 ปี แต่โครงข่ายใหม่อาจต้อง 7-10 ปี

Goldman Sachs ประเมินว่า สหรัฐฯ จะต้องใช้เงินถึง $720 พันล้านในโครงข่ายภายในปี 2030 และอีก $50 พันล้านเฉพาะเพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล

บริษัทไฟฟ้าต้องเร่งลงทุน เช่น Dominion สร้างสายส่งใหม่ใน Data Center Alley ขณะที่ Microsoft จับมือรีสตาร์ทโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Mile Island และ Google ลงทุน $20 พันล้านในพลังงานหมุนเวียนที่ตั้งอยู่ร่วมกับศูนย์ข้อมูล

เป้าหมายสิ่งแวดล้อมปะทะความเป็นจริง

พลังงานที่ AI ต้องการขัดแย้งอย่างรุนแรงกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัทเทคโนโลยี

Microsoft รายงานว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น 29% นับตั้งแต่ปี 2020 จากการสร้างศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI ขณะที่ Google เพิ่มขึ้น 48% ตั้งแต่ปี 2019

Brad Smith รองประธาน Microsoft ยอมรับว่า AI ทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายลดคาร์บอนยากขึ้นถึง 4 เท่า แต่ยืนยันว่าจะไม่ละทิ้งเป้าหมายเดิม

แนวโน้มการปล่อยก๊าซขึ้นอยู่กับแหล่งพลังงาน หากยังต้องพึ่งก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน อาจทำให้เป้าหมายลดคาร์บอนล่าช้า และทำให้การปลดระวางโรงไฟฟ้าเดิมล่าช้าไปด้วย

ด้านการใช้น้ำก็เป็นประเด็นสำคัญ Microsoft ใช้น้ำเพิ่มขึ้น 87% ตั้งแต่ปี 2020 ถึงกว่า 2.1 พันล้านแกลลอนในปี 2023 ส่วนใหญ่เพื่อระบายความร้อนศูนย์ข้อมูล

โอกาสใหม่และนวัตกรรมกำลังเกิดขึ้น

ปัญหาที่เกิดจาก AI กระหายพลังงาน กำลังก่อให้เกิดนวัตกรรมและตลาดใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

  • ระบบทำความเย็นขั้นสูง เช่น Immersion Cooling เติบโต 22.5% ต่อปี ช่วยลดการใช้พลังงานความเย็นได้ถึง 95%
  • การใช้พลังงานความร้อนทิ้ง เช่นในสตอกโฮล์ม ที่ใช้ความร้อนจากศูนย์ข้อมูลไปให้กับบ้านกว่า 10,000 หลัง หรือที่ Meta ประเทศเดนมาร์ก
  • การจัดเก็บพลังงานและตอบสนองตามความต้องการ กลายเป็นรายได้ใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล
  • การติดตั้งศูนย์ข้อมูลใกล้แหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น ความร่วมมือ Google กับ Intersect Power มูลค่า $20 พันล้าน
  • นิวเคลียร์กลับมาเป็นตัวเลือก เช่น Microsoft สนับสนุนการพัฒนา Small Modular Reactors (SMRs)
  • ระบบจัดการโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เช่น การใช้ AI เพื่อคาดการณ์และปรับโหลดไฟแบบเรียลไทม์

อนาคตของพลังงานกำลังเป็นรูปเป็นร่าง

การชนกันระหว่างนวัตกรรม AI กับข้อจำกัดของพลังงาน กำลังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระยะยาวในตลาดโลก

Fatih Birol ผู้อำนวยการ IEA กล่าวว่า “นี่ไม่ใช่ปัญหาระยะสั้น มันคือการเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงานที่จะอยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี”

การมีพลังงานที่มั่นคงและสะอาดจะกลายเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน และเปลี่ยนแปลงแผนที่เศรษฐกิจเทคโนโลยี

กฎระเบียบใหม่กำลังตามมา เช่น EU มี Energy Efficiency Directive บังคับรายงานการใช้พลังงานและน้ำ ขณะที่สหรัฐฯ ใช้แนวทางแยกรัฐ เช่น เวอร์จิเนีย แคลิฟอร์เนีย และโอเรกอน

แม้ปัญหา AI กับสิ่งแวดล้อมจะยังอยู่ แต่ IEA คาดว่า AI เองอาจช่วยลดการปล่อยก๊าซถึง 5-10% ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพลังงานและกระบวนการอุตสาหกรรม

สรุป

พลังงานที่ AI ต้องการกำลังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดในระบบเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ ศูนย์ข้อมูลที่แข่งขันแย่งพลังงานกำลังเปลี่ยนแปลงแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก ในขณะที่เป็นปัญหาเร่งด่วน แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต ผู้ที่สามารถเชื่อมโลกดิจิทัลกับโลกจริงได้สำเร็จ จะเป็นผู้นำในยุคถัดไปของเทคโนโลยีและพลังงาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน ตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ไม่เหมาะสำหรับทุกคน และอาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านและปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินที่มีใบอนุญาตก่อนตัดสินใจลงทุน

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

25 พฤษภาคม 2568

จีน–คิวบา: พันธมิตรยุทธศาสตร์ใหม่ที่สหรัฐฯ ต้องจับตา

เมื่อจีนขยายอิทธิพลในลาตินอเมริกา และคิวบากลับมาเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ — บทวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวที่สหรัฐฯ ไม่อาจมองข้าม

อ่านเพิ่มเติม
24 พฤษภาคม 2568

ยุโรปเตรียมรับมือมรสุมการค้า: เมื่ออเมริกาขู่ขึ้นภาษี 50%

ทรัมป์จุดชนวนสงครามการค้าระลอกใหม่ ขู่ขึ้นภาษี 50% สินค้า EU เริ่ม 1 มิ.ย. 2025 ทำตลาดปั่นป่วนทั่วโลก

อ่านเพิ่มเติม
22 พฤษภาคม 2568

โลกปั่นป่วน: จากอิหร่านถึงวอชิงตัน เมื่อภูมิรัฐศาสตร์-เศรษฐกิจโลกปะทะกันตรงกลาง

โลกกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญทั้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายการเงิน และการค้า — บทวิเคราะห์ความเชื่อมโยงจากอิหร่าน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ถึงตลาดโลก

อ่านเพิ่มเติม