ยุโรปเตรียมรับมือมรสุมการค้า
เมื่ออเมริกาขู่ขึ้นภาษี 50% สินค้าทั้งทวีป
เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ปล่อยหมัดเด็ดที่เขย่าตลาดโลกอีกครั้ง — ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากสหภาพยุโรป (EU) ถึง 50% เริ่ม 1 มิถุนายน 2025 เป็นต้นไป
คำประกาศนี้มาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยุโรปจะเริ่มเจรจาการค้ารอบใหม่ และถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดทางการค้า "ครั้งใหญ่ที่สุด" นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
สำหรับภาคธุรกิจและผู้บริโภคชาวยุโรปที่กำลังแบกภาระเงินเฟ้อ ค่าพลังงาน และซัพพลายเชนเปราะบาง — นี่อาจเป็น พายุใหญ่ลูกถัดไปที่ซัดเศรษฐกิจยุโรปอย่างจัง
🔥 สงครามภาษีข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ว่า "ผมไม่ต้องการเจรจาอะไรอีก ข้อตกลงมันมีแล้ว — อยู่ที่ 50%" พร้อมประกาศกร้าวหลังจากที่การเจรจาในรอบก่อนๆ ไม่คืบหน้า
ถ้าขึ้นจริง ภาษีนี้จะกระทบสินค้ายุโรปมูลค่ากว่า €500 พันล้าน โดยเฉพาะเยอรมนีที่ส่งออกไปสหรัฐฯ มากถึง €161 พันล้าน ต่อปี
รถยนต์หรูอย่าง BMW, Mercedes, ชีสฝรั่งเศส, น้ำมันมะกอกอิตาลี อาจมีราคาพุ่งขึ้นหลายหมื่นบาทในตลาดอเมริกา
ฝั่งยุโรปก็ไม่ยอม — เตรียมตอบโต้ด้วย มาตรการภาษีมูลค่า €95 พันล้าน ครอบคลุมสินค้าจากอเมริกาอย่างวิสกี้ Bourbon, มอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ฯลฯ
หากข้อตกลงไม่เกิดภายในวันที่ 10 มิถุนายน สงครามการค้าระดับโลกอาจปะทุเต็มรูปแบบ
⚡ จีนยังเป็นชนวนร้อน: EV, แบรนดี และยางรถยนต์
แม้จะมีข่าวใหญ่จากฝั่งสหรัฐฯ แต่ยุโรปก็ยังต้องรับมือกับอีกสมรภูมิ — ความขัดแย้งทางการค้ากับจีนเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
จีนส่งออก EV มายุโรปเพิ่มกว่า 1,600% ใน 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้สหภาพยุโรปต้องขึ้นภาษีนำเข้า EV จีนรวมแล้วสูงถึง 45.3% โดย BYD เจอภาษีเพิ่ม 17%, Tesla ที่ผลิตในจีนโดน 7.8%
จีนก็ตอบโต้อย่างดุเดือด — ขึ้นภาษีแบรนดีฝรั่งเศส 30–39%, เตรียมเล่นงานสินค้าหมูและนมจากยุโรป, และยังอยู่ระหว่างตรวจสอบยางรถยนต์จากยุโรปอีกรายการ
ยังพอมีแสงสว่าง — ทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจาหาทางออก เช่น การตั้ง "ราคาขั้นต่ำ" สำหรับ EV แทนการเก็บภาษี
🛢️ รัสเซีย: สงคราม พลังงาน และความเปราะบางของอุตสาหกรรม
ยุโรปเองก็ยังไม่หลุดจากรัศมีผลกระทบของสงครามรัสเซีย–ยูเครน หลังจากคว่ำบาตรรัสเซียไปแล้ว 17 รอบ ทำให้ต้องลดการพึ่งพาแก๊สรัสเซียจาก 45% เหลือเพียง 19% และเลิกใช้น้ำมันจากรัสเซียเกือบทั้งหมด
แต่มาตรการเหล่านี้ก็ไม่ฟรี — ราคาพลังงานพุ่งสองเท่า โรงงานในเยอรมนีจ่ายค่าไฟแพงกว่าคู่แข่งอเมริกันถึง 4 เท่า บางแห่งเริ่มพิจารณาย้ายฐานการผลิตหนีต้นทุน
บ้านเรือนในยุโรปตะวันออกต้องแบกรับค่าไฟที่หนักหนา ขณะที่รัสเซียยังมีช่องทางขายน้ำมันผ่าน "เรือผี" (shadow fleet) แม้จะเสียรายได้กว่า €500 พันล้าน
🧾 แล้วเราจะได้รับผลกระทบอะไร?
- รถยุโรปอาจแพงขึ้นเป็นแสนบาทในตลาดอเมริกา
- ชีส ไวน์ เสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่นยุโรปอาจหายหน้าหรือราคาพุ่ง
- พลังงานในยุโรปยังจะแพงและผันผวน
- EV จากจีนอาจยังเข้ามาได้ในราคาไม่สูงนัก โดยเฉพาะรุ่น plug-in hybrid ที่ยังไม่โดนภาษีหนัก
⏳ จุดตัดสินอยู่ใน 2 สัปดาห์
- 1 มิ.ย. 2025: ทรัมป์จะเริ่มเก็บภาษี 50% หรือไม่?
- 10 มิ.ย. 2025: EU ปิดรับฟังความเห็นประชาชนเพื่อตอบโต้
- 8 ก.ค. 2025: หมดเวลาการเจรจาชั่วคราว
หากไม่มีใครถอย หรือหาทางออกร่วมกันได้ — โลกอาจเข้าสู่ยุคของ "สงครามการค้า 3 ทาง" ระหว่าง สหรัฐฯ – จีน – ยุโรป
🧭 บทสรุป: เศรษฐกิจโลกสั่นอีกระลอก
ในยุคที่การค้าเคยไหลลื่นและต้นทุนถูก โลกกำลังหันหลังให้สิ่งนั้น
ซัพพลายเชนต้องถูกจัดระเบียบใหม่
ต้นทุนพลังงานจะสูงขึ้น
ภาษีจะกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง
นักลงทุน ธุรกิจ และผู้บริโภค — ต้องเตรียมรับความผันผวนรอบใหม่ ที่อาจอยู่กับเราไปอีกหลายปี
ไม่มีใครชนะในสงครามการค้า มีแต่ทุกฝ่ายที่ต้องจ่ายแพงขึ้น