การลดอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐฯ โดย Moody's และผลกระทบต่อตลาด Forex

20 พฤษภาคม 2568
2 นาที
โดย ทีมงาน ThaiForex.Org

ผลกระทบของการลดอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐฯ โดย Moody's ต่อตลาดเงินตรา

การลดอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้สาธารณะสหรัฐฯ โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody's จาก AAA เป็น AA1 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2025 ได้สร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดเงินตราทั่วโลก ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและโอกาสในการเทรดที่น่าสนใจมากมาย ปรากฏการณ์นี้มีความพิเศษตรงที่เราเห็นปฏิกิริยาของตลาดที่ผิดไปจากความสัมพันธ์แบบดั้งเดิม

การลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ โดย Moody's เกิดขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณที่ต่อเนื่องและภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อสถานะของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองของโลกในระยะยาว

ดอลลาร์อ่อนค่าท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น - ปรากฏการณ์แปลกใหม่

สิ่งที่น่าสนใจมากคือการที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งแตกต่างจากความสัมพันธ์แบบดั้งเดิมที่อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นมักจะทำให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้นเนื่องจากดึงดูดเงินทุนต่างชาติ

ปัจจุบัน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (US Dollar Index) กำลังทดสอบระดับจิตวิทยาสำคัญที่ 100.00 ขณะที่คู่สกุลเงินหลักมีการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ:

  • EUR/USD เพิ่มขึ้น 0.90% สู่ระดับ 1.1268
  • GBP/USD เพิ่มขึ้น 0.61% สู่ระดับ 1.3365
  • USD/JPY ลดลง 0.44% สู่ระดับ 144.94

ในด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตร พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ 4.349% ขณะที่พันธบัตรอายุ 30 ปีใกล้แตะระดับ 5.00% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2023

ความแตกต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นและการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐอาจบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในวิธีที่ตลาดมองสินทรัพย์สหรัฐฯ ซึ่งนักเทรดควรติดตามอย่างใกล้ชิด

โอกาสจากการทะลุแนวต้านทางเทคนิคของคู่สกุลเงินหลัก

การลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ได้เป็นตัวเร่งให้เกิดการทะลุแนวต้านทางเทคนิคที่สำคัญในหลายคู่สกุลเงิน สร้างโอกาสการเทรดที่มีจุดเข้าและออกที่ชัดเจน:

EUR/USD

คู่สกุลเงินนี้ได้ทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1.1200 และกำลังทดสอบโซนแนวต้านที่ 1.1300-1.1360 โดยหลุดออกจากรูปแบบ Falling Wedge ซึ่งเป็นสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นแบบคลาสสิก นี่เป็นโอกาสในการเปิดสถานะซื้อโดยมีแนวรับที่ 1.1228

GBP/USD

ปอนด์กำลังเข้าใกล้ระดับสำคัญที่ 1.3400 หลังจากทะลุแนวต้านสำคัญที่ 1.3250 และสร้างรูปแบบจุดต่ำและจุดสูงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง หากสามารถทะลุ 1.3400 ได้สำเร็จ เป้าหมายถัดไปอาจอยู่ที่ 1.3600

USD/JPY

คู่สกุลเงินนี้ได้ลดลงต่ำกว่าระดับจิตวิทยาสำคัญที่ 145.00 ซึ่งเป็นการทะลุแนวรับทางเทคนิคที่สำคัญ โดยคู่เงินนี้กำลังทดสอบแนวล่างของช่องแนวโน้มขาลง นี่เป็นโอกาสในการเปิดสถานะขายโดยมีแนวต้านที่ 146.56

ผลกระทบต่อสกุลเงินเอเชียและค่าเงินบาท

การขายดอลลาร์ทำให้สกุลเงินเอเชียแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเริ่มจากดอลลาร์ไต้หวันที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่แล้วและขยายวงกว้างไปทั่วทั้งภูมิภาค เงินบาทไทยลดลง 0.18% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ มาอยู่ที่ 33.23 บาทต่อดอลลาร์ แสดงถึงความแข็งแกร่งแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 1.75% เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าเงินบาทอาจมีความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญในปี 2025 โดยอาจอ่อนค่าลงสู่ระดับ 35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

สกุลเงินเอเชียอื่นๆ ยังแสดงผลการดำเนินการที่แข็งแกร่งมากขึ้น:

  • หยวนจีนนอกประเทศแข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบหกเดือน
  • ดอลลาร์สิงคโปร์กำลังทดสอบจุดแข็งแกร่งของแถบการซื้อขาย
  • วอนเกาหลีแข็งค่าขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ความสัมพันธ์ข้ามตลาดที่เสริมการอ่อนค่าของดอลลาร์

การอ่อนค่าของดอลลาร์เกิดขึ้นแม้ในสภาพแวดล้อมแบบ risk-on โดยดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.70% และดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.78% ในขณะเดียวกัน ราคาทองพุ่งขึ้น 1.52% สู่ระดับ 3,235.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ใกล้แตะระดับสูงสุดตลอดกาล ซึ่งเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่แสดงว่านักลงทุนกำลังมองหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากสินทรัพย์ที่อิงกับดอลลาร์

ราคาน้ำมันยังคงอ่อนแอ (WTI อยู่ที่ประมาณ 61.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงกว่า 20% นับตั้งแต่ต้นปี) ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนให้กับพลวัตของตลาดเงินตรา โดยเฉพาะสำหรับสกุลเงินที่เชื่อมโยงกับสินค้าโภคภัณฑ์

กลยุทธ์การเทรดสำหรับนักเทรด Forex ไทย

นักเทรดไทยสามารถใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมตลาดที่ไม่ปกตินี้ได้หลายวิธี:

1. เทรดตามการทะลุแนวต้านทางเทคนิค

มุ่งเน้นที่ระดับทางเทคนิคที่ชัดเจนในคู่สกุลเงินหลักตามที่กล่าวไว้ข้างต้น โดยใช้ Stop Loss ที่รัดกุมเนื่องจากความผันผวนยังคงอยู่ในระดับสูง

2. กลยุทธ์ตะกร้าสกุลเงินเอเชีย

พิจารณาการเปิดสถานะในตะกร้าสกุลเงินเอเชียที่แข็งค่าขึ้นเทียบกับดอลลาร์ เพื่อกระจายความเสี่ยงและรับประโยชน์จากผลกระทบของการลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ที่มีต่อภูมิภาค

3. กลยุทธ์ส่วนต่างอัตราผลตอบแทน

แม้จะขัดกับความเชื่อทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงการสันนิษฐานว่าอัตราผลตอบแทนสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นจะสนับสนุนดอลลาร์ในที่สุด เนื่องจากความสัมพันธ์แบบดั้งเดิมนี้ดูเหมือนจะไม่ใช้ได้ในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน

4. การวางตำแหน่งในสกุลเงินปลอดภัย

พิจารณาการเปิดสถานะในเยนญี่ปุ่น (JPY) และฟรังก์สวิส (CHF) เนื่องจากสกุลเงินเหล่านี้แข็งค่าขึ้นทั้งจากความอ่อนแอของดอลลาร์และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ในสภาพแวดล้อมตลาดหุ้นแบบ risk-on

5. การเทรดตามความสัมพันธ์ระหว่างทองคำและสกุลเงิน

สังเกตความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างความแข็งแกร่งของทองคำและความอ่อนแอของดอลลาร์ โดยเฉพาะเมื่อทองคำใกล้แตะระดับสูงสุดตลอดกาล

นักเทรดควรติดตามการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสำคัญๆ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งอาจมีการปรับนโยบายการเงินเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์นี้

บทสรุป

การลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ โดย Moody's เป็นเหตุการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงพลวัตของตลาดเงินตรา สร้างความสัมพันธ์ที่ผิดปกติและโอกาสการเทรดที่สำคัญ สำหรับนักเทรด Forex ไทย การเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานนี้ส่งผลต่อทั้งคู่สกุลเงินหลักและสกุลเงินเอเชียในภูมิภาคอย่างไรจะให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าสำหรับการเทรดในช่วงพลวัตตลาดที่พิเศษนี้

การสลายของความสัมพันธ์แบบดั้งเดิมระหว่างอัตราผลตอบแทนและสกุลเงินบ่งชี้ว่าอาจมีบางสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นฐานเกี่ยวกับวิธีที่ตลาดมองสถานะทางการเงินของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเทรดทุกคนควรให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน ตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ไม่เหมาะสำหรับทุกคน และอาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านและปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินที่มีใบอนุญาตก่อนตัดสินใจลงทุน

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

24 พฤษภาคม 2568

ยุโรปเตรียมรับมือมรสุมการค้า: เมื่ออเมริกาขู่ขึ้นภาษี 50%

ทรัมป์จุดชนวนสงครามการค้าระลอกใหม่ ขู่ขึ้นภาษี 50% สินค้า EU เริ่ม 1 มิ.ย. 2025 ทำตลาดปั่นป่วนทั่วโลก

อ่านเพิ่มเติม
22 พฤษภาคม 2568

โลกปั่นป่วน: จากอิหร่านถึงวอชิงตัน เมื่อภูมิรัฐศาสตร์-เศรษฐกิจโลกปะทะกันตรงกลาง

โลกกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญทั้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายการเงิน และการค้า — บทวิเคราะห์ความเชื่อมโยงจากอิหร่าน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ถึงตลาดโลก

อ่านเพิ่มเติม
21 พฤษภาคม 2568

ญี่ปุ่นใกล้ระเบิด? หนี้สาธารณะมหาศาลจ่อเขย่าตลาดการเงินโลก

หนี้ต่อ GDP ของญี่ปุ่นแตะ 260% พร้อมดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวที่พุ่งสูง เสี่ยงต่อทั้งเศรษฐกิจภายในและระบบการเงินโลก

อ่านเพิ่มเติม